บาร์โค้ด รหัสสากล (GS1) คืออะไร

บาร์โค้ด รหัสสากล GS1 คืออะไร
Barcodeบาร์โค้ด รหัสสากล หรือที่มักเรียกว่า "บาร์โค้ด EAN" (European Article Number) คือ รหัสแถบที่ใช้แทนข้อมูลสินค้าในรูปแบบที่เครื่องอ่านสามารถอ่านได้ เพื่อช่วยในการระบุสินค้า ตรวจสอบข้อมูล และจัดการสต็อกอย่างเป็นระบบ โดยเป็นที่ยอมรับและใช้งานในระดับสากล

รายละเอียดเกี่ยวกับ บาร์โค้ด รหัสสากล:

1. โครงสร้างของบาร์โค้ดสากล (EAN-13)

มีทั้งหมด 13 หลัก โดยทั่วไปประกอบด้วย:

รหัสประเทศ: 3 หลักแรก เช่น 885 คือประเทศไทย

รหัสบริษัท/ผู้ผลิต: กำหนดโดยหน่วยงานออกบาร์โค้ด

รหัสสินค้า: ระบุสินค้าชนิดนั้น

ตัวเลขตรวจสอบ (Check Digit): 1 หลักสุดท้าย ใช้ตรวจสอบความถูกต้องของบาร์โค้ด

 

2. ทำไมถึงเรียกว่าสากล

เพราะระบบ EAN เป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก

องค์กรกลางที่ควบคุมมาตรฐานคือ GS1 ซึ่งมีสาขาในแต่ละประเทศ เช่น GS1 Thailand ดูแลบาร์โค้ดในไทย

 

3. ประโยชน์ของบาร์โค้ดสากล

ช่วยในการจัดการสินค้าในระบบ POS (Point of Sale)

ใช้ตรวจสอบข้อมูลสินค้าในระบบโลจิสติกส์

ลดความผิดพลาดในการป้อนข้อมูล

เพิ่มความเร็วในการทำงานทั้งด้านขายและคลังสินค้า

ใช้ในการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศได้ เพราะเป็นรหัสที่ต่างประเทศยอมรับ

 ตัวอย่างบาร์โค้ด EAN-13:

8851234567890

885 = ประเทศไทย

12345 = รหัสบริษัท

67890 = รหัสสินค้า

0 = ตัวเลขตรวจสอบ

GS1 (Global Standards One)คือองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งพัฒนาและดูแลรักษามาตรฐานสากลสำหรับการระบุตัวตน การเก็บข้อมูล และการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ ทรัพย์สิน และสถานที่ต่างๆ ทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน

​สาระสำคัญเกี่ยวกับ GS1 และบาร์โค้ด

​GS1 เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจากบาร์โค้ด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่พิมพ์บนผลิตภัณฑ์ที่สามารถสแกนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์

​มาตรฐานบาร์โค้ดของ GS1 ช่วยให้สินค้าสามารถเข้าสู่ระบบของคู่ค้าหรือร้านค้าทั่วโลกได้อย่างราบรื่น ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ ลดความผิดพลาดในการจัดการสินค้าคงคลังและการขนส่ง

​เลขหมายประจำตัวสินค้า (GTIN - Global Trade Item Number) เป็นมาตรฐานที่สำคัญที่สุดของ GS1 ซึ่งระบุผลิตภัณฑ์ได้อย่างไม่ซ้ำกันทั่วโลก และเป็นพื้นฐานของระบบ GS1

​บาร์โค้ดมีหลายประเภทตามมาตรฐาน GS1 เช่น:

​EAN/UPC (1D Barcode) เป็นบาร์โค้ดแบบแท่งที่ใช้กันทั่วไปในระบบค้าปลีกทั่วโลก

​บาร์โค้ด 2 มิติ (2D Barcode) เช่น QR Code หรือ Data Matrix สามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่าบาร์โค้ด 1D และใช้สำหรับการเก็บข้อมูลสินค้าตามมาตรฐานสากล GS1

​GS1 Thailand (สถาบันรหัสสากล) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนออกเลขหมายบาร์โค้ดสินค้าตามมาตรฐานสากล GS1 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย (โดยรหัสบาร์โค้ดที่ออกให้ในประเทศไทยจะขึ้นต้นด้วย 885)

​การใช้บาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1 ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถขยายไปสู่ตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ

 

ใครบ้าง ที่จำเป็นต้องจดทะเบียน บาร์โค้ด ?


ทุกคนที่ต้องการติดบาร์โค้ดมาตรฐานสากล (EAN-13) บนสินค้าของตนเองเพื่อวางขายตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า จะต้องจดทะเบียนบาร์โค้ด

การจดทะเบียนนี้จะช่วยให้สินค้ามีตัวเลขประจำตัวที่เป็นเอกลักษณ์และไม่ซ้ำกับใครในโลก ทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลและแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างถูกต้อง

ผู้ที่ควรจดทะเบียนบาร์โค้ด

ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้า: ผู้ประกอบการที่ต้องการนำสินค้าเข้าสู่ร้านค้าปลีก, ห้างสรรพสินค้า, ซูเปอร์มาร์เก็ต และระบบโลจิสติกส์ที่ใช้ระบบสแกนบาร์โค้ดในการบริหารจัดการ

ธุรกิจขนาดเล็ก (SME): แม้จะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก แต่การมีบาร์โค้ดมาตรฐานจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต

ผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้า: การใช้บาร์โค้ดช่วยลดความผิดพลาดในการคีย์ข้อมูล และทำให้การจัดการสต็อกสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

บาร์โค้ดที่ต้องจดทะเบียน

บาร์โค้ดมาตรฐานสากล (EAN-13): เป็นบาร์โค้ดที่ใช้กับสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป และต้องจดทะเบียนกับสถาบัน GS1 ประเทศไทย เพื่อรับชุดหมายเลขประจำตัวที่ไม่ซ้ำกัน

กรณีที่ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน

บาร์โค้ดที่สร้างขึ้นใช้ภายในองค์กร: หากคุณต้องการใช้บาร์โค้ดเพื่อจัดการสินค้าภายในโรงงานหรือบริษัทของตัวเองเท่านั้น สามารถสร้างบาร์โค้ดขึ้นมาใช้เองได้ เช่น บาร์โค้ดแบบ Code 39 หรือ Code 128 ซึ่งไม่ต้องจดทะเบียนกับสถาบันใดๆ

สุดท้ายแล้ว ลูกค้าท่านใดที่จะเลือกใช้งานสติกเกอร์ สามารถสอบถามรายละเอียดกับทางเราได้ เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำ จากประสบการณ์เป็นผู้ผลิตและการทำงานมามากว่า 10 ปี บริษัทเอมเซลล์ ยึดมั่นในการบริการ และให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @aimsale โทร 081-5456946 , 091-5456946 , 099-4453942, 099-4453946

Visitors: 217,153